“สุพัฒนพงษ์”จี้กกพ.เร่งสรุปตัวเลขค่าไฟงวดใหม่ ยังตรึงดีเซล 35 บ.
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า แม้ราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกจะมีแนวโน้มลดลง ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถเรียกเก็บเงินสะสมเข้ากองทุนได้ประมาณ 3 บาทต่อลิตร แต่กระทรวงพลังงานไม่ได้ลดราคาขายปลีกดีเซลในประเทศลงตาม โดยยังคงราคาดีเซลไม่เกิน 35 บาทต่อลิตร เพราะยังมีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตรเป็นการชดเชย
“ราคาขายปลีกดีเซลของไทยที่ 34.94 บาทต่อลิตร ยังไม่แพงมากอยู่ในอันดับ 3-4 เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่าอยู่ในวิสัยที่ประคับประคองได้ ระหว่างนี้จึงยังไม่มีการปรับราคาขายปลีกดีเซลลงได้ และยังคงต้องติดตามราคาตลาดโลกอีกสักระยะ เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่กระทบต่อภาระในอนาคต พร้อมอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆ ประกอบการพิจารณาของขวัญปีใหม่ 2566 ให้ประชาชน ซึ่งจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้” โดยฐานะกองทุน ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2565 ยังคงติดลบ 129,426 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 87,237 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 44,189 ล้านบาท
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงาน และกองทุนกำลังติดตามสถานการณ์ทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลกอย่างใกล้ชิด หลังกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันและพันธมิตร (โอเปกพลัส) ยังคงกำลังการผลิตน้ำมันอยู่ที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องอยู่ที่ 30 กว่าดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นหลังอุณหภูมิลดต่ำลงในช่วงฤดูหนาว
ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) นั้น ต้องรอความชัดเจนผลการหารือระหว่างคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จำกัด (มหาชน) ก่อน กกพ. จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือ
“สิ่งที่เราช่วยกันทำ คือ พยายามลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า หาเชื้อเพลิงทุกประเภทที่ถูกลงกว่าแอลเอ็นจี ซึ่งเชื่อว่า กกพ. คงจะเตรียมประกาศค่าเอฟทีเร็วๆ นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 ม.ค. 2566 หรืองวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 โดยเฉพาะกระทรวงพลังงานจะได้รวบรวมข้อมูลและปัจจัยต่างๆ นำไปคำนวณมาตรช่วยเหลือภาคครัวเรือน เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพของประชาชน ส่วนภาคอุตสาหกรรม ก็จะหาแนวทางที่บรรเทาผลกระทบให้ได้มากที่สุด จากการปรับขึ้นค่าเอฟที”